うしおととら Ushio to Tora ล่าอสูรกาย [รีวิวอนิเมะที่ดูแล้ว]

うしおととら
Ushio to Tora
ล่าอสูรกาย

39 ตอนจบ
แนว การต่อสู้ แอคชั่น แฟนตาซี ไซไฟ ดราม่า ฮาเร็ม
ฉายเมื่อ 3 July 2015 – 24 June 2016

ภาพรวม : เรื่องนี้เป็นระดับตำนานกันเลยทีเดียว สมัยก่อนกว่าจะหาอ่านจนจบได้ลำบากมาก เพราะไม่ยอมออกเล่มต่อไปเสียที กว่าจะออกอีกทีก็ผ่านไปหลายปีมาก ซึ่งความสนุกนั้นไม่ต้องกล่าวถึงมาก เพราะว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดแล้วสำหรับเรื่องนี้ เรียกได้ว่า ขึ้นหิ้งเลยทีเดียว

เนื้อหา และการดำเนินเรื่อง : เรื่องราวของล่าอสูรกายฉบับอนิเมชั่นนี้ ถูกตัดทอนเนื้อหาหลายส่วนจากเวอร์ชั่นมังงะเป็นจำนวนมาก แต่ก็ถือว่ายังดำเนินเรื่องให้รู้เรื่องราวหลัก ๆ ได้อย่างดี เนื้อเรื่องค่อนข้างจะซับซ้อนและเชื่อมโยงไปยังอดีต แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะงง เพราะเรื่องราวจะเฉลยและคลี่คลายปมออกมาทั้งหมด

ภาพ กราฟฟิก : มาเป็นอนิเมชั่นในยุคนี้ จัดเต็มมาก ภาพคงเอกลักษณ์เดิมไว้ได้อย่างดี กราฟฟิก และเอฟเฟ็คต่าง ๆ อลังการดีมาก

ความรู้สึก และความน่าสนใจ : อนิเมชั่นจากมังงะระดับตำนานแบบนี้ ห้ามพลาด!!!

เรื่องย่อ : เมื่อเรื่องเล่าปีศาจและหอกสมิงในตำนานภายในวัดเมื่อ 500 ปีก่อนของพ่อเป็นเรื่องจริง!!!
“อาโอซึกิ อุชิโอะ” เด็กหนุ่มผู้ที่ไม่เคยเชื่อคำบอกเล่าเรื่องปีศาจของผู้เป็นพ่อ มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เขาอยู่กับพ่อที่เป็นนักบวชสองคนเพียงลำพัง จนมาวันหนึ่งเมื่อพ่อต้องออกไปทำธุระนอกวัด

เขาก็ได้บังเอิญพบห้องใต้ดินภายในวัดที่เขาอาศัยอยู่ โดยความสงสัยเขาจึงเปิดห้องนั้นขึ้น และได้พบกับอสูรตนหนึ่ง ที่ถูกผนึกไว้กับ “หอกสมิง” เมื่อเจ้าอสูรได้เห็นอุชิโอะจึงหลอกให้เขาช่วยดึงหอกเพื่อปลดปล่อยมันอุชิโอะไม่สนใจ
 
มันจึงใช้กลอุบายหลอกล่อโดยใช้ไอปีศาจเรียกปีศาจที่อยู่ใกล้ๆ มามากมาย เจ้าอสูรบอกว่าจะปราบปีศาจให้แต่ต้องดึงหอกสมิงที่ผนึกมันออกให้ก่อน อุชิโอะจังจำเป็นจะต้องใช้พลังของเจ้าอสูรเพื่อปราบปีศาจที่มันเรียกออกมา แต่เมื่อเจ้าอสูรทรยศ หอกกลับแสดงพลังทำให้อิชุโอะกลายเป็นเหมือนซามูไรที่เคยผนึกเจ้าอสูรเมื่อ 500 ปีก่อน

เพราะกลัวว่าไอปีศาจของเจ้าอสูรอาจจะเรียกพวกเหล่าปีศาจออกมาอีก อุชิโอะจึงให้เป็นหน้าที่ของเจ้าอสูรที่ต้องคอยกำจัดพวกปีศาจ และตั้งชื่อเจ้าอสูรกายว่า “โทร่า”ทว่าอุชิโอะไม่อาจไว้ใจเจ้าอสูรโทร่าที่คิดจะกินเขาและออกอาละวาดได้ สักวันจะต้องกำจัดเจ้าอสูรตนนี้ให้ได้….

โทร่าจำใจต้องช่วยอุชิโอะปราบเหล่าปีศาจอย่างไม่เต็มใจนักเพราะกลัวจะถูกผนึกโดยหอกสมิงอีกครั้งโทร่าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น มันจึงหาทางที่จะจัดการอุชิโอะให้ได้ ส่วนอุชิโอะก็กลัวโทร่าจะออกอาละวาดไปกินพวกมนุษย์อีก ต้องคอยดูอยู่ใกล้ๆและใช้พลังของหอกสมิงปราบตลอด จนสุดท้ายทั้งคู่จึงได้กลายเป็นเพื่อนร่วมคู่ต่อสู้คอยปราบเหล่าปีศาจไปด้วยกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม : ล่าอสูรกาย เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องและภาพโดย คาซุฮิโระ ฟูจิตะ ตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นในนิตยสาร Weekly Shonen Sunday ตั้งแต่ปี 1990-1996 จำนวน 33เล่มจบ มียอดจำหน่ายรวมกว่า 30ล้านชุด

ตีพิมพ์ในประเทศไทยโดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ จำนวน 33 เล่มจบ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2550

เคยทำเป็น OVA ทั้งหมด 10 ตอน และเคยฉายในประเทศไทยในปี 2535ทางช่อง 9 (โมเดิร์นไนน์ทีวี ในปัจจุบัน) อนิเมะสุดมันส์นำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งทางช่อง Tokyo MX ที่ได้สตูดิโอ MAPPA และ VOLN อำนวยการสร้าง โดยผู้กำกับชื่อดังอย่าง Nishimura Satoshi (ผู้กำกับก้าวแรกสู่สังเวียน) เขียนบทโดย Inoue Toshiki (จากผู้เขียนบท Death Note) มี MoriTomoko เป็นผู้ออกแบบตัวละคร และ Kazuhiro Fujita ผู้แต่งมาดูแลในเรื่องของบทเองอีกด้วย

最弱無敗の神装機竜 Saijaku Muhai no Bahamut บาฮามุท มังกรเหล็กไร้พ่าย [รีวิวอนิเมะที่ดูแล้ว]

最弱無敗の神装機竜
Saijaku Muhai no Bahamut
Undefeated Bahamut Chronicle
บาฮามุท มังกรเหล็กไร้พ่าย

12 ตอนจบ
แนว แฟนตาซี ต่อสู้ ฮาเร็ม ชีวิตในโรงเรียน โรงเรียนการต่อสู้ เซอร์วิส
ฉายเมื่อ 11 January 2016 – 28 March 2016

ภาพรวม : เป็นอนิเมะแนวโรงเรียนการต่อสู้อีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว ภาพรวมของเรื่องราวทั้งหมดในเรื่องนี้ไม่ยืดเยื้อหรือเวิ่นเว้อเกินไป ตัวละครสาว ๆ ในเรื่องก็มีความน่ารักโดดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละคน นับว่าเป็นอนิเมะแนวโรงเรียนการต่อสู้ที่ทำออกมาได้ดี

เนื้อหา และการดำเนินเรื่อง : หลัก ๆ ของเรื่องเป็นโรงเรียนการต่อสู้ ดู ๆ ไปจะคล้าย ๆ IS สักหน่อย แต่เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องและเนื้อหาค่อนข้างซับซ้อนเกี่ยวกับอดีต ชาติตระกูล และจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนมากกว่า ดำเนินเรื่องได้ไม่เวิ่นเว้อ เข้าสู่เนื้อหาหลักได้ดี

ภาพ กราฟฟิก : ภาพสวยมาก เอ็ฟเฟคและกราฟฟิกดี ดูอลังการดี ไม่ค่อยเจองานเผาสักเท่าไหร่

ความรู้สึก และความน่าสนใจ : สนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

เรื่องย่อ : “อาณาจักรอาร์คาเดีย” (アーカディア旧帝国= Ākadia kyū teikoku)… ราชธานีอันเรืองอำนาจ  ภายใต้การครองอำนาจของ “ราชวงค์อาร์คาเดีย”  ที่ใช้การปกครองด้วยระบบเผด็จการ  ออกกฏเกณฑ์กดขี่ทางชนชั้น และใช้อำนาจส่งเสริมให้บุรุษเพศอยู่เหนือสตรี  ไร้ซึ่งเสรีภาพใดๆ ราวกับยุคทมิฬอันมิควรมีในโลกใบนี้

แต่แล้วอาณาจักรอาร์คาเดียก็ถึงจุดที่ต้องลงจากอำนาจจากการปฏิวัติ  เกิดการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงยุคสมัย  ซึ่งประชาชนที่ถูกกดขี่ต่างลุกขึ้นต่อสู้เพื่อประกาศอิสรภาพให้กับตนเอง  ตัวแปรของการปฏิวัติครั้งนี้คือดรากูไนท์สีนิลลึกลับที่ถูกขนานนามว่า “วีรบุรุษทมิฬ” (黒き英雄= Kuroki eiyū)

แล้วผลในที่สุดนั้น… ราชวงค์อาร์คาเดียถึงคราล่มสลายลง  ราชทายาทถูกลดตำแหน่งไปเป็นเชลยสงคราม  ต้องมาชดใช้ค่าสินสงครามตามความผิดที่เป็นราชนิกูลของราชวงศ์อันเคยย่ำยีประชาชนของตนเอง  เป็นผลตอบแทนและจุดสิ้นสุดยุคสมัยอันแสนทรามนั้น…

เวลาไปเพียงห้าปี… อาณาจักรอาร์คาเดียที่เคยอยู่บนแผนที่ตั้งเดิม  ถูกแทนที่ด้วยราชอาณาจักรใหม่  ภายใต้ราชวงศ์ “อาทิสมาต้า” (アティスマータ新王国 = Atisumāta shin ōkoku)

ข้อมูลเพิ่มเติม : Undefeated Bahamut Chronicleหรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ Saijaku Muhai no Bahamutเป็นผลงานอนิเมะที่สร้างมาจากต้นฉบับไลท์ โนเวล ที่แต่งโดย อ. Senri Akatsuki  วาดภาพประกอบโดยคุณ Ayumu Kasuga จาก SB Creative (บริษัทด้านสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือของ SoftBank Group Corp. จากญี่ปุ่น)  ภายใต้สำนักพิมพ์ GA Bunko และวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ปี 2013 จนถึงปัจจุบันออกมาแล้ว 8 เล่ม ยังไม่จบ  และได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทยซึ่งถือลิขสิทธิ์โดยทางZenshu Publishingโดยใช้ชื่อว่า “บาฮามุท มังกรเหล็กไร้พ่าย”