マクロス7 Macross 7 มาครอส เซเว่น [รีวิวอนิเมะที่ดูแล้ว]

マクロス7

Macross 7

มาครอส เซเว่น

49+OVA 3 ตอน ฉายเมื่อ 16 October 1994 – 24 September 1995
The Movie「Ginga ga Ore o Yondeiru!」The Galaxy Is Calling Me! ฉายเมื่อ 30 September 1995
Macross Dynamite 7 OVA 4 ตอน ฉายเมื่อ 18 December 1997 – 25 August 1998
The Movie Macross FB 7: Ore no Uta o Kike! ฉายเมื่อ 20 October 2012

แนว ไซไฟ เพลง หุ่นรบ อวกาศ สงคราม

ภาพรวม : อนิเมะระดับตำนานอีกเรื่องหนึ่งที่ชูจุดขายเรื่องเสียงเพลง หุ่นรบ และการต่อสู้บนอวกาศ ซึ่งได้รับความนิยม และโด่งดังมาก ๆ ในอดีต ในสมัยเด็กผู้เขียนไม่มีโอกาสได้ดูจนจบ ได้ดูแบบไม่ต่อเนื่องด้วย ถึงตอนนี้ได้ดูจนจบครบทุกอย่างของ Macross 7 แล้ว ซึ่งถ้าใครดู Macross Delta และ Macross Frontier แล้วก็ควรจะหา Macross 7 มาดูเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าเนื้อเรื่องของแต่ละภาคจะเป็นเฉพาะตัว ไม่ได้ต่อเนื่องกัน แต่ละภาคก็มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปคนละแบบ

สำหรับ Macross 7 นี้ จะพบกับความยียวนกวนประสาทของ "บาซาร่า" พระเอกประจำเรื่อง ความวีนน่ารัก ๆ ของ "มิเรน" ความพยายามของสาวน้อยผมทองไร้ชื่อถือดอกไม้ ฯลฯ ส่วนเพลงของภาคนี้เป็นแนว "วงร๊อค" ซึ่งจังหวะสนุกสนาน มันส์ ๆ กันเลยทีเดียว

เนื้อหา และการดำเนินเรื่อง : ร้องเพลง สู้รบ สงครามอวกาศ บวกกับชีวิตของเหล่าตัวเอก และกองยานอวกาศ

ภาพ กราฟฟิก : สำหรับปี 1994 ถือว่าภาพสวยมาก

ความรู้สึก และความน่าสนใจ : แฟนซีรีย์นี้ห้ามพลาด สนุก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เรื่องย่อ : เรื่องราวในอีก 35 ปี หลังจากสงครามครั้งใหญ่ระหว่างโลก และเซนทราดี้(Space War I)จบลง พร้อมกับ ตำนานเสียงเพลงอันลือลั่นของ ลิน มินเมย์
เมื่อมนุษย์ได้อพยพออกจากโลกเพื่อเดินทางหาดาวดวงใหม่ โดยการเดินทางของ ยาน CITY 7 ซึ่งในยานนี้มี กัปตันแมกซ์ เป็นผู้สั่งการ โดยมีผู้ว่ามิเรีย เป็นผู้ว่าของ CITY 7 และมีสมาชิกไฟร์เยอร์บอมเบอร์ ทั้ง 4 โดยมี บาซาร่า และ มิเรน่า (บางคนจะเรียก มิเรน แต่ผมจะเรียก มิเรน่า นะครับตามแบบฉบับของ IBC ที่หลายคนคุ้นเคย) และมีนักบินอย่าง กามุริน ที่ขับยานรบปกป้อง CITY 7 จากการรุกรานของ สิ่งมีชีวิตนอกโลก ที่ต้องการพลังชีวิตของมนุษย์มาเพื่อสร้าง spiritia farm นั่นเอง

เพลงแนะนำ

Fire Bomber - Holy Lonely Light

Fire Bomber - Totsugeki Love Heart

Fire Bomber - My Soul for You

マクロスF (フロンティア) Macross Frontier [รีวิวอนิเมะที่ดูแล้ว]

マクロスF (フロンティア) 

Macross Frontier

25 ตอนจบ
แนว ไซไฟ สงคราม อวกาศ หุ่นรบ ดราม่า ความรัก
ฉายเมื่อ April 3, 2008 – September 25, 2008

The Movie (เนื้อหาจะไม่เหมือนอนิเมะหลัก)
MACROSS Frontier - Itsuwari no Utahime ฉายเมื่อ 12 November 2009
MACROSS Frontier - Sayonara no Tsubasa ฉายเมื่อ 26 February 2011

ภาพรวม : เป็นอนิเมะในซีรีย์ "มาครอส" หลังจาก Macross 7 อีก 14 ปี ไม่ต้องกลัวว่าถ้าเริ่มดูภาคนี้แล้วจะไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเนื้อเรื่องเป็นเฉพาะของภาคนี้เลย ถ้าเคยดู Macross 7 มาก็จะเจอการกล่าวถึง หรือเพลงประกอบจาก Macross 7 อยู่บ้างในภาคนี้ โดยรวมดูแล้วสนุก ซึ้ง ๆ ดีกับเนื้อหารัก ๆ แบบสามเส้า การต่อสู้มีปานกลาง ส่วนใหญ่ไปเน้นเรื่องตัวละครหลัก ๆ กันมากกว่า แต่ก็ดูแล้วสนุกดี

เนื้อหา และการดำเนินเรื่อง : เนื้อหาหลัก ๆ ก็เป็นสงครามระหว่างสัตว์ประหลาด "วาจูร่า" กับอาณานิคมบนอวกาศของมนุษย์ มีการต่อสู้ และร้องเพลงตามเนื้อเรื่องอยู่เสมอ (แต่เพลงยังไม่โดนใจเท่าไหร่แฮะ)

ภาพ กราฟฟิก : ภาพ เอิ่ม แบบว่าดู TV Version มาแล้วงานเผามีเยอะมาก!! แต่พวกฉากหุ่น และยานอวกาศ ใช้ CG เป็นหลักเลย

ความรู้สึก และความน่าสนใจ : ถือว่าสนุกดีนะภาคนี้

เรื่องย่อ : ในปี ค.ศ. 2059 เป็นเวลาหลังจากเนื้อเรื่องในซีรีส์ มาครอสเซเว่น 14 ปี โดยที่เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกองยานอาณานิคมของ New UN Spacy (N.U.N.S.) ลำใหม่ที่ชื่อว่า มาครอสฟรอนเทียร์ และการปรากฏตัวของเครื่องบินรบวาริเอเบิล (Variable Fighter) รุ่นทดสอบ วีเอฟ-25 (VF-25) ของบริษัท S.M.S. ซึ่งเป็นบริษัททางการทหารของเอกชน เรื่องเริ่มที่ในกลุ่มอาณานิคมอพยพที่ 25 ที่ถูกเรียกว่า กองยานอาณานิคมมาครอสฟรอนเทียร์ถูกโจมีตีด้วยชนเผ่าต่างดาวVajra ในขณะที่ เชอริล โนม กำลังแสดงคอนเสิร์ตอยู่ ทำให้คอนเสิร์ตต้องยกเลิกกลางคัน

เพลงแนะนำ : บอกตรง ๆ ว่าเพลงของภาคนี้มันออกแนวเพลงช้า หรือจังหวะกลาง ๆ เท่านั้น ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ ที่ฟัง ๆ แล้วรู้สึกโอเคก็ 

Ranka Lee ft. Sheryl Nome - What Bout My Star☆

Ranka Lee - Seikan Hikou

Ranka Lee ft. Sheryl Nome - Lion

マクロスΔ Macross Δ (Delta) [รีวิวอนิเมะที่ดูแล้ว]

マクロスΔ
Macross Δ (Delta)

26 ตอนจบ
แนว ไซไฟ สงคราม อวกาศ ดราม่า เพลง ความรัก
ฉายเมื่อ 3 April 2016 – 25 September 2016

ภาพรวม : มาครอส เดลต้า ภาคนี้ไม่จำเป็นต้องไปดูภาคก่อน ๆ ก็รู้เรื่อง มีการท้าวความไปถึงภาคก่อนตั้งแต่ภาคแรก (มาครอส เซเว่น) ให้พอเข้าใจ แต่เนื้อเรื่องก็เป็นเฉพาะของเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าดูแล้วจะงง โดยรวม สนุก น่ารัก อิ่มเอมใจ ดนตรีไพเราะ กราฟฟิกสวยงาม เนื้อหาไซไฟสุดมันส์ตระการตา ตัวละครสาว ๆ น่ารัก โอ๊ย แบบนี้ไม่ดูไม่ได้แล้ว!!!

เนื้อหา และการดำเนินเรื่อง : เนื้อหาหลัก ๆ ก็เป็นสงครามอวกาศ ที่ต่อสู้กันระหว่างเผ่าพันธ์ และเพื่อป้องกัน ยับยั้ง ไวรัสโรคร้าย โดยใช้เสียงเพลงลบล้างไวรัสโรคร้ายนั้น ดำเนินเรื่องด้วยเสียงเพลงประกอบการต่อสู้ของยานรบ

ภาพ กราฟฟิก : สวยงามสุดยอด!!

ความรู้สึก และความน่าสนใจ : สนุก น่ารัก อิ่มเอมใจ ดนตรีไพเราะ ไม่ควรพลาด!!

เรื่องย่อ : ในปี 2067 (8 ปีหลังภาค Macross Frontier) เหตุการณ์ในดาวที่เป็นชายแดนของกาแล็คซี่ มนุษย์โลกได้หนีอพยพไปอยู่นอกอวกาศเพื่อไม่ให้เผ่าพันธุ์ตัวเองสูญพันธุ์ แต่แล้วภัยร้ายแรงอย่าง “วาร์ ซินโดรม” ก็ทำลายความสงบสุขมวลมนุษย์จนหมดสิ้น แต่แล้วก็มีกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่กล้าหาญต่อกรกับภัยคุกคามนี้ พวกเธอคือหน่วยยุทธการเฉพาะกิจทางเสียง “วัลคิรี่” ที่มาพร้อมหมวดเดลต้าที่พร้อมปกป้องพวกเธอ เรื่องราวของเหล่าหญิงสาวสุดแกร่งที่ไม่หวั่นแม้อยู่กลางดงห่ากระสุนจึงได้เริ่มขึ้น

เพลงแนะนำ WALKÜRE - Ikenai BORDERLINE ตอนแรกก็ได้ฟังเพลงนี้ประกอบฉากในตอนแรกแรกแล้ว ยังเป็นเพลงที่ใช้ประกอบฉากต่อสู้หลาย ๆ ฉากอีกด้วย เป็นเพลงที่ฟังสนุก จังหวะเร็ว เร้าใจ

เพลงแนะนำ  WALKÜRE - Rune Ga Pikatto hikattara เป็นเพลง Ending Theme ที่น่ารัก ฟังสนุกอีกเพลง

クラスルーム☆クライシス Classroom Crisis [รีวิวอนิเมะที่ดูแล้ว]

クラスルーム☆クライシス
Classroom Crisis 

13 ตอนจบ
แนว ไซไฟ การเมือง ธุรกิจ อวกาศ ดราม่า มีเซอร์วิสบ้าง
ฉายเมื่อ 3 July 2015 – 25 September 2015

ภาพรวม : ตอนแรกที่เห็นชื่อเรื่อง นึกว่าเรื่องแนวห้องเรียนสู้กันแบบเซอร์ไววัลเกม.... แต่เปิดเรื่องมา อ๊า แนวอวกาศ ไซไฟ จรวด...... เนื้อเรื่องช่วงแรก ๆ น่าเบื่อมาก.... การเมืองมาเต็ม ธุรกิจ ผลประโยชน์ เล่ห์เหลี่ยม กลวิธี ฯลฯ จนเกือบจะดรอปทิ้ง แต่ที่ทนดูเพราะตัวละครมิซูกิ กับ อีริส มันน่ารัก แต่พอเข้าถึงช่วงไคล์แมกซ์ท้าย ๆ เรื่องจะดูสนุกขึ้นมา ก็ ถือว่าโอเคอยู่นะ

เนื้อหา และการดำเนินเรื่อง : ช่วงแรกจะดูน่าเบื่อตรงที่การเมือง และธุรกิจเยอะมาก ช่วงหลัง ๆ จะสนุกเพราะเนื้อหาช่วงแรกผลักดันมา

ภาพ กราฟฟิก : ทำได้สวยดี

ความรู้สึก และความน่าสนใจ : ช่วงแรก ๆ อดทนดูไปก่อน ใครไม่ชอบการเมืองจะเบื่อเอาได้ แต่หลัง ๆ สนุกจริง ๆ

เรื่องย่อ :  “เมื่อห้องเรียนต้องพบกับวิกฤตครั้งใหญ่ นี่คือเรื่องราวของการดิ้นรนและต่อสู้ของพวกเขาใน Classroom Crisis”

Classroom Crisis คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตที่มนุษยชาติสามารถเดินทางบนอวกาศได้เป็นเรื่องปกติ จนสามารถไปตั้งรกรากบนดาวต่างๆในระบบสุริยะจักรวาลได้ เรื่องราวได้เกิดขึ้นบนเมืองโตเกียวที่ 4 ที่ซึ่งตั้งอยู่บนดาวอังคาร ที่ซึ่งมีศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทชั้นแนวหน้าด้านวิศวกรรมอวกาศ อย่าง “คิริชินะคอร์เปอเรชั่น” อยู่

ซึ่งที่นี่เองนั้นก็ได้มีโรงเรียนของคิริชินะตั้งอยู่เพื่อฟูมฝักเหล่านักเรียนเพื่อให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของคิริชินะในวันข้างหน้าโดยได้มีห้องเรียนห้องหนึ่งที่เรียกได้ว่ารวมพวกแปลกไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็คือห้องที่รวบรวมเหล่าผู้มีความสามารถชั้นสูงในนั้นเอง ชื่อของห้องเรียนนั้นก็คือ A-TEC หรือย่อมาจาก

“Advanced Technological development department Educational development Class”

ซึ่งเป็นห้องที่เปรียบได้กับห้องที่สืบถอดเจตนารมณ์ ของผู้ก่อตั้งอย่าง ทาคาฮิสะ คิริว และ เรนอิจิโร่ ชินะมิยะ ไว้อีกด้วย

シドニアの騎士 (Sidonia no Kishi) Knights of Sidonia อัศวินอวกาศ [รีวิวอนิเมะที่ดูแล้ว]

シドニアの騎士 

Sidonia no Kishi

Knights of Sidonia 

อัศวินอวกาศ

Season 1 : 12 ตอนจบ
Season 2 : 12 ตอนจบ
แนว หุ่นรบ ไซไฟ สงคราม อวกาศ
ฉายเมื่อ 
Season 1 : 11 April 2014 – 27 June 2014
Season 2 : 10 April 2015 – 26 June 2015

ภาพรวม : 

แว๊ปแรกที่เปิดดูภาพดูแปลกตามาก ๆ เป็น CG ทั้งเรื่อง ทำให้ดูมีมิติมาก เรื่องราวก็สุดมันส์ ระทึก สนุกมาก

การดำเนินเรื่อง : 

เรื่องราวของการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในอวกาศ และการคลี่คลายปมปริศนาบางอย่างที่ถูกปิดบังเอาไว้

ภาพ กราฟฟิก :

ภาพสวยดีนะ แปลกดี ฉากรบ ฉากต่อสู้นี้สุด ๆ มันส์ ได้อารมณ์ดี

เนื้อหา : 

เนื้อหาเป็นการรบของหุ่นยนต์กับสัตว์ประหลาดในอวกาศก็จริง แต่ก็ยังมีดราม่า และการค้นหาความจริงอยู่ ซึ่งปมต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ คลี่คลายออก ไม่ต้องไปนั่งงงเอาทีหลัง

ความรู้สึก : 

สนุกมาก ตื่นเต้น และลุ้นระทึกกับฉากและซีนต่อสู้มาก ๆ

ความน่าสนใจ :

สนุกแบบนี้ น่าสนใจมาก ๆ

เรื่องย่อ :

เมื่อพันปีที่แล้ว กาวน่า สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ไม่มีใครสามารถสื่อสารด้วยได้เข้าโจมตีโลก มนุษยชาติจึงทำการอพยพด้วยยานเมล็ดพันธุ์เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ ทานิคาเสะ นางาเตะ มนุษย์ที่เติบโตในชั้นใต้ดินของยานเมล็ดพันธุ์ “ซิโดเนีย” ได้ขึ้นมาสู่พื้นผิว ผู้เชียวชาญในการควบคุมหุ่นรบโมริโตะรุ่นเก่า “ซึกุโมริ” มากกว่าใคร ๆ เขาและเพื่อนร่วมรบได้ขับหุ่นโมริโตะออกไปต่อสู้กับกาวน่าเพื่อปกป้องมนุษยชาติที่เหลืออยูเพียงน้อยนิด